ASW ปักธงบุกพื้นที่ EEC รับดีมานด์พุ่ง ประเดิมโค้งสุดท้ายเปิดตัวโครงการใหม่ Kave Uni.verse รับแคมปัสคอนโดบูม ชูทำเลศักยภาพติด ม.บูรพา
บมจ.แอสเซทไวส์ หรือ ASW ปักธงบุกอสังหาฯ บนพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC ชูความสำเร็จโครงการ ‘แอทโมซ ศรีราชา’ กระแสแรงพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาส 2 /2566 รับดีมานด์ฯ ที่อยู่อาศัยฟื้นตัว ลุยเปิดโครงการใหม่ Kave Uni.verse คอนโดมิเนียมใหม่ย่านบางแสนใกล้ ม.บูรพา มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคน Gen Z โดยมี Facilities ครบครันกว่า 26 รายการ ราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท มั่นใจหนุนยอดขายทั้งปีทุบสถิติ
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ด้วยกลยุทธ์ของบริษัทฯ มุ่งมั่นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขยายสู่พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เนื่องจากเป็นทำเลที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต โดยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศไทย และภาคธุรกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงเริ่มเดินหน้าปักธงบุกโครงการ ATMOZ SRIRACHA (แอทโมซ ศรีราชา) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรก มูลค่าโครงการกว่า 1,165 ล้านบาท จำนวน 539 ยูนิต เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยมียอดขาย (Presale) กว่า 70% ของมูลค่าโครงการ และจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566
ทั้งนี้บริษัทฯ จึงวางกลยุทธ์รุกขยายโครงการที่อยู่อาศัยบนพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อต่อยอดความสำเร็จ โดยในปีนี้วางแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มในพื้นที่ดังกล่าวอีก 1 โครงการ เพื่อให้สอดรับกับดีมานด์ที่อยู่อาศัยบนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากการแพร่ระบาดโควิดคลี่คลายและเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มขยายตัวดีขึ้น และผลักดันให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แคมปัสคอนโดฯ ใกล้กับสถานศึกษากลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น หลังจากนักศึกษาเริ่มกลับมาเรียนได้ตามปกติ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยบูรพา นับว่าเป็นเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาค ที่มีนักศึกษากว่า 25,000 คน สอดรับกับยุทธศาสตร์การขยายแบรนด์เคฟ (Kave) คอนโดมิเนียมใกล้กับสถานศึกษาของบริษัทฯ
สำหรับในช่วงโค้งสุดท้าย บริษัทฯ ประเดิมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม KAVE Uni.verse Bangsaen (เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน) คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 245 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการ 13 ไร่ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 23-35 ตร.ม. โดยเป็นคอนโดใหม่หนึ่งเดียวบนทำเลบางแสนใกล้กับ ม.บูรพา เพียง 200 เมตร พร้อมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1,300 ตร.ม. และคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ และมี Facilities ถึง 26 รายการ เหนือระดับด้วยสถานีชาร์จรถไฟฟ้า สนับสนุนคุณภาพชีวิตของ Gen Z พร้อมพื้นที่สร้างสรรค์กิจกรรมในโซนเอาท์เดอร์ ห้องดนตรี และ Racing room
นอกจากนี้ โครงการฯ ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายทั้ง ซูเปอร์มาร์เก็ต, ตลาดสด, สถานพยาบาล และห้างสรรพสินค้า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท ล่าสุดกับรอบพิเศษเปิดจองโครงการคอนโดมิเนียม KAVE Uni.verse Bangsaen (เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน) ผ่านช่องทาง Online Booking สามารถทำลายสถิติยอดขายหมด 2 Floors ภายในครึ่งชั่วโมง โดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่ม Gen Z และนักลงทุนอสังหาฯ เนื่องจากแบรนด์เคฟ สามารถให้ผลตอบแทน (Yield) ที่ดีและคุ้มค่ากับการลงทุน
สำหรับโครงการ KAVE Uni.verse Bangsaen (เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน) พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างก่อนใคร ได้แล้ววันนี้ ที่ สำนักงานขาย และสามารถลงทะเบียนรับส่วนลด : https://bit.ly/3TDj6M5 หรือโทร 02-168-0000 ทั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าโครงการคอนโด KAVE Uni.verse Bangsaen (เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน) ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ และเป็นโครงการที่สอดรับกับดีมานด์ของกลุ่ม Gen Z รวมทั้งนักลงทุนอสังหาฯ จะได้รับการตอบรับที่ดี และผลักดันยอดขายของบริษัทฯ ทั้งปีสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากยอดขายปัจจุบัน ทะลุเป้าหมาย 10,000 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 45 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 48,050 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 33 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 12 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 12,935 ล้านบาท